วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ยิ่งให้ยิ่งได้ (Go – Giver)

กระแส ยิ่งให้ยิ่งได้ โหมพัดแรงขึ้นทุกวันในโลกของธุรกิจ ทั้งผ่านสื่อออนไลน์ และ ออฟไลน์

การทำการค้า หรือการทำธุรกิจในยุคก่อนหน้า เราจะเห็นได้ว่า ขายจึงจะได้ ทำจึงจะได้ และทำ CSR เพื่อตอบแทนสังคมหรือตอบแทนผู้บริโภคเป็นครั้งคราวเมื่อสินค้าหรือบริการนั้นขายได้ หากแต่ในปัจจุบันนี้กลยุทธ์ดังกล่าว เปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิง เป็นเรื่องของการให้ก่อน ถึงจะได้  หลายคนอาจคิดในใจหรือโพล่งออกมาว่า ให้ก่อน แล้วจะได้ได้ยังไง การค้ามันต้องลงทุน แล้วฉันจะเอาอะไรที่ไหนมาให้ก่อน  ... หลายคน อาจหัวเราะ หลายคนเพิกเฉยเพื่อพูดถึงการให้ก่อนรับ


แต่หากเราเป็นเช่นเดียวกับตัวละครที่เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมดในเล่มนี้ ที่ชื่อว่า โจ ซึ่งเป็นคนที่มีคุณสมบัติทะเยอทะยานอย่างเด่นชัด มุ่งมั่นทำงานหนักและให้ทุกอย่างแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว  แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ เป้าหมายก็ยิ่งห่างไกลออกไปทุกที  มองไม่เห็นทางออกเพราะไม่เห็นปัญหา 

การให้ เป็นทางออกที่โจและเราได้เรียนรู้จากตัวละครหลักในเรื่อง บ๊อบ เบิร์ก และ เดวิด บาค ได้ร้อยเรียงขึ้นอย่างสวยงาม และเป็นแรงบันดาลใจให้โจ และผู้อ่านอีกหลายคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว เปลี่ยนเป้าหมายจากการต้องได้ก่อน ไปเป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นก่อน  อุ่นการันตีว่าทุกบรรทัดของเนื้อหาจะให้เราได้อบอุ่นใจ และเดินทางไปสู่เป้าหมายอย่างอย่างมีความสุข  และมีผลลัพธ์อย่างไม่คาดฝันทั้งในระหว่างการเดินทางและจุดหมายปลายทางของเป้าหมายนั้น


เราจะได้เรียนรู้การให้จากตัวละครที่เป็นกลุ่มคนผู้ให้ เช่น
เรื่องราวของ เออร์เนสโต เจ้าของแผงขายฮ็อตด็อกที่ขายดีที่สุดในเมือง ที่ให้บทสรุปกับเราว่า ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งหมดในโลกนี้ ล้วนสร้างขึ้นโดยผู้คนที่มีความหลงใหลในสิ่งที่พวกเขากำลังมอบให้   ... ผู้คนจ่ายเงินค่าฮ็อตด็อกให้เออร์เนสโต ไม่ใช่เพราะเป็นฮ็อตด็อกที่อร่อยที่สุด หากแต่เออร์เนสโตทำให้การซื้อฮ็อตด็อกเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง
... ประสบการณ์อะไร ที่ทำให้ฮ็อตด็อกของเออร์เนสโตฮ็อทที่สุดในเมือง ?


เดบรา ดาเวนพอร์ต เริ่มต้นค้าขายอสังหาริมทรัพย์เมื่ออายุ 42 ปี เนื่องจากครอบครัวล้มเหลว เธอจึงต้องลุกขึ้นมาทำมาหาเลี้ยงตัวเองและลูกๆ  ตำราการขายทุกอย่าง ทุกรูปแบบ เธอเรียนรู้และใช้มัน แต่เธอไม่สามารถขายบ้านได้แม้แต่หลังเดียว จนวันนึงที่เธอตัดสินใจไม่แคร์ ไม่แยแสอะไรทั้งนั้น เทคนิคการขาย และเอกสารรายละเอียดของบ้านที่จะขาย ก็ไม่เตรียมพร้อม แต่เธอสามารถขายบ้านหลังแรกได้ ... เธอให้อะไร จนทำให้ลูกค้าซื้อบ้านจากเธอ ?


นอกจากการมีสัญชาตญาตในการเลือก ผสม คั่ว และบดเมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้รสและกลิ่นกาแฟที่กลมกล่อมที่สุดแล้ว การให้ และการรับทำให้กาแฟของเรเชลได้รับความนิยมจากคอกาแฟอย่างขึ้นชื่อลือชาได้อย่างไร และมูลค่าของสิ่งที่เรเชลมอบให้ผู้คนผ่านกาแฟนั้นสูงกว่าเงินที่เรเชลได้รับมากแค่ไหน ?

และอีกหลายตัวอย่างการให้ที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทั้งอบอุ่นและแข็งแรงจากอีกหลายตัวละคร จะทำให้พวกเราที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และนำกฎแห่งการให้ไปใช้จนหัวใจเราหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับคำว่าให้ เราจะเดินทางไปสู่เป้าหมายอย่างมีความสุข และความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ จะค่อยๆ ถักทอเติบโตจนกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่คาดฝัน ...

อุ่นเชื่อเช่นนี้ เพราะความสำเร็จระดับโลกทั้งหลายล้วนเกิดจากกฎ ยิ่งให้ยิ่งได้ เช่น โทมัส เอดิสัน ให้แสงสว่างแก่ชาวโลกด้วยหลอดไฟ  พี่น้องตระกูลไรท์ให้มนุษย์บินได้ด้วยเครื่องบิน  สตีฟ จ็อปส์ ให้โลกได้ใกล้ชิดกันด้วยสมาร์ทโฟน


นิยายแนวธุรกิจเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกหัวใจได้ ให้อย่างสนุก และขับเคลื่อนธุรกิจไปอย่างทรงพลัง

อุ่นไอ  ไทยแลนด์

ปล. อย่าลืมแวะมาเล่าประสบการณ์การให้ ให้อุ่นฟังบ้างนะ...ขอบคุณล่วงหน้าจ๊ะ

เครดิตภาพ
www.coca-colacompany.com
www.ajitnawalkha.com
www.forwallpaper.com
www.tunwalai.com

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

30 วิธีเอาชนะโชคชะตา (The Luckiest Man in the World, part 1)

เพราะอะไร ถึงมีคนเก่งมากมายที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะพวกเขาไม่ล่วงรู้กฎแห่งความโชคดีไงล่ะ

ผู้ชายคนนี้ บัณฑิต อึ้งรังษี วาทยกรระดับโลก ปัจจุบันเขียนหนังสือมากมายเพื่อนำพาผู้คนไปประสบความสำเร็จระดับโลกเช่นเขา ... ย้อนไปก่อนมีชื่อเสียง พูดกันแบบบ้านๆ แบบเผินๆ แทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายคนนี้  สัญชาติไทย เชื้อสายเอเชียเต็มรูปแบบ แต่เลือกที่จะเป็นวาทยกรกำกับวงออเคสตร้าระดับโลก ไม่มีทาง เสียงส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้


แต่เหตุใด คุณบัณฑิต จึงประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงระดับโลก และแถมจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ก็ไม่ใช่ในประเทศ หรือทวีป ในบ้านเกิดเมืองนอน แต่หากไปโด่งดังไกลถึงโลกตะวันตก อย่างชนะเลิศในแบบที่ประชากรตะวันตกเลิกดูแคลนคนไทยกันไปเลยทีเดียว (อุ่นให้เครดิตคุณบัณฑิต ในฐานะที่เป็นต้นแบบในการเปลี่ยนมุมมองของชาวโลกที่มีต่อคนไทยหรือคนเอเชียด้วยอย่างแรง) 


สำหรับอุ่น  อุ่นยกให้คุณบัณฑิต เป็นคนสำเร็จทะลุโลก สำเร็จนาน และยั่งยืน เป็นต้นแบบให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาสำเร็จตามๆ กันไปอีกหลายชีวิตเลยทีเดียว และเพราะอะไรน่ะหรือ เพราะคุณบัณฑิต ซ้อม ซ้อม ซ้อม วิชาชีพการกำกับวง และ ทำ ทำ ทำ 30 วิธี ในการเอาชนะโชคชะตา ดังนั้น หนังสือเล่มนี้ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะเป็น 30 วิธีที่เขียนขึ้นมาจากการลงมือทำจริง ของคนที่เดินทางสู่ความสำเร็จ ที่แทบจะเรียกได้ว่า เริ่มต้น ณ จุดศูนย์ สู่ความสำเร็จอย่างสวยงามในเวทีระดับโลก


สำหรับความสำเร็จอย่างโดดเด่น ความเก่ง อย่างเดียวไม่พอ ต้อง โชคดี ด้วย ดังนั้น มาโชคดีด้วยกัน ด้วย 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา โดยวาทยกรไทยผู้เป็นหนึ่งบนเวทีโลก ... บัณฑิต อึ้งรังษี


โชคดีบนทางชีวิตไปด้วยกัน แล้วแวะมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ
อุ่นไอ  ไทยแลนด์

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน (Secrets of Millionaire Mind)

ชื่อเรื่องและปกลงตัวกันอย่างโดนตา โดนใจ  และเมื่อหยิบขึ้นมาก็ตัดสินใจซื้อเลย แทบไม่ต้องเปิดเนื้อใน เพราะหน้าปกระบุ  ที ฮาร์ฟ เอเคอร์  ผู้เขียน ซึ่งมีชื่อเสียงในการทำคอร์สสัมมนาที่เปลี่ยนผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นกับชีวิตผู้เข้าร่วมสัมมนามาแล้วหลายหมื่นหรืออาจจะหลายแสนคนไปแล้ว


จึงจัดมาและอ่านทันทีเพราะต้องการไขสมองให้เปิด เนื่องจากรู้สึกตื้อตึงเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เราขยันเวอร์ ทำงานแบบไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย แล้วไฉนนะ ชีวิตถึงไปไม่ถึงไหนสักที และที่สำคัญเราเลือกที่จะร่ำรวยมีเงินล้าน แต่ทำไมถึงไปไม่ถึงแม้แต่หลักครึ่งล้าน


อ่ะนั่นแน่ะ ... หลายคนอาจกำลังคิดว่า อุ่น !!! หวังสูงไปรึเปล่า เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อแล้ว จะรวยไปทำไม ความรวยเป็นเรื่องของคนรวย ไม่ใช่เป็นเรื่องของเรา  และถ้าทำไม่ได้อายคนเขาเปล่าๆ ... อ่ะนั่นแน่ะ ... อุ่นจะตอบกลับว่า ความรวยเป็นเรื่องของทุกคน  อุ่นเชื่อที่ ที ฮาร์ฟ เอเคอร์ เขียนไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ว่า ถึงแม้คุณไม่อาจมีได้ทุกอย่าง หรือทุกสิ่งบนโลกใบนี้ แต่ก็เชื่อว่าคุณสามารถมี ทุกอย่างที่คุณต้องการจริงๆ ได้แน่นอน


ดังนั้น จึงหยิบหนังสือเล่มนี้ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน ” (Secrets of Millionaire Mind) มาฝากคนที่เชื่อเช่นเดียวกัน หรือแม้กระทั่งยังไม่เชื่อสนิทใจ หรือยังไม่เชื่อ แต่ลึกๆ ในหัวใจ แต่กำลังค้นหาวิถีเพื่อ การเป็นคนที่มีสมองเงินล้าน

ในเล่มนี้ ที ฮาร์ฟ เอเคอร์ จะถอดรหัส 14 ความคิดที่แตกต่างกันระหว่างคนรวยกับคนธรรมดา (ตามภาพปกหลัง) ไว้อย่างละเอียด  ไฮล์ไลท์ตรงคำว่า ความคิดนะ เพราะความจริงแล้ว วิถีทางสู่ความสำเร็จนั้น คือ ความคิด มาก่อน วิธีการเสมอ ถ้าความคิดไม่ผ่าน วิธีการไม่มีประโยชน์อะไร  และโดยเฉพาะความคิดเกี่ยวกับเงิน  เอเคอร์ มองว่า ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จด้านการเงิน คือ วิธีคิดที่เกี่ยวกับเงิน  หากมีความคิดที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเงิน ก็ไม่มีทางร่ำรวย เช่น เงิน คือ ความโลภ เงิน คือ ความเหน็ดเหนื่อย เงิน คือ ความเครียด เงิน คือ สาเหตุของการทะเลาะเบาะแว้ง ฯลฯ หากมีความคิดเกี่ยวกับเงินเช่นนี้
ไม่ว่าในชีวิตจะมีปัจจัยที่มาช่วยสนับสนุนไปสู่ความสำเร็จครบด้านแค่ไหน ก็ไม่มีทางสำเร็จและร่ำรวยได้ เพราะในที่สุดเราจะกำจัดเงินทิ้งเพราะความเชื่อเหล่านี้


ดังนั้น ที ฮาร์ฟ จึงเชิญชวนมาปรับทัศนคติเกี่ยวกับเงินอย่างพลิกโลกให้กลับตาลปัตร และแยกแยะความคิดต่างของคนรวยและคนธรรมดา ให้เราได้ก้าวไปสู่ความร่ำรวยอย่างจำชีวิตเดิมกันไม่ได้เลยทีเดียว

ออ...อุ่นยังชอบการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาของ ที ฮาร์ฟ อีกข้อหนึ่ง คือ บอกว่า การอ่านอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้ ดังนั้น หากต้องการเปลี่ยนชีวิต จงอ่าน และลงมือทำ ไม่อย่างนั้น เราจะกลายเป็นเพียงคนที่ขีดเส้นใต้ให้กับความสำเร็จของคนอื่นเท่านั้น


หากอยากขีดเส้นใต้ให้ความสำเร็จของตัวเองไปพร้อมกับขีดเส้นใต้ให้กับคนอื่นๆ ที่เราชื่นชม หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณ
ส่วนอุ่นอยากเป็นคนขีดเส้นใต้ให้กับความสำเร็จของตัวเอง และของเพื่อนๆ หรือ คุณๆ ทุกคน จึงเชิญชวนมาอ่าน ถอดรหัสลับสมองเงินล้านและขับเคลื่อนชีวิตให้ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน


อุ่นไอ  ไทยแลนด์  ... Take Care.็น็HH

ปล. แวะมาคุย แวะมาถามไถ่ ได้ที่ Comment แล้วอุ่นจะแวะมาตอบ มาบอกเล่านะจ๊ะ

365 ปาฏิหาริย์แห่งการขอบคุณ

เห็นด้วยกับอุ่นมั๊ยว่า คำว่า ขอบคุณ แม่ พ่อ และผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูอบรม สอนพวกเรามาตั้งแต่เราจำความยังไม่ได้กันเลยทีเดียว และเราก็ใช้คำนี้มาตลอด เมื่อได้รับสิ่งของ หรือความช่วยเหลือ หรือได้รับบริการจากใครๆ  หากว่าบ่อยครั้ง เราก็เพียงพูดไปตามมารยาท หรือด้วยหน้าที่ของคนดีที่ต้องพูด แต่เราไม่ได้ใส่หัวใจไปด้วยกับเสียงที่เราปล่อยออกไป  มันจึงบางเบาเหลือเกินสำหรับการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในชีวิตที่ละเอียดอ่อนของเรา


มาถึงศตวรรษนี้ คำว่า ขอบคุณได้รับการบรรจุอยู่ในหลักสูตรพัฒนาตนเอง และหนังสือแนวพัฒนาตนเองแทบทุกเล่ม เพราะการขอบคุณอย่างรู้คุณค่าและใส่ใจในความหมาย คือ คุณสมบัติที่จะนำพาให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และประสบความสำเร็จในสิ่งที่คาดหมาย โดยไม่ต้องเข้น หรือตีลังกาทำเรื่องยากใดๆ   แค่ขอบคุณชีวิตก็เปลี่ยนอย่างพลิกฝ่ามือจริงๆ


หนังสือเล่มนี้  “365 ปาฏิหาริย์แห่งการขอบคุณ พี่สาวที่น่ารักคนหนึ่งเป็นคนแนะนำให้อ่าน ในวันที่ชีวิตอุ่นดูนิ่งๆ ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา เมื่อประมาณเกือบสองปีที่แล้ว  พูดเลยว่าแค่ได้ยินชื่อเรื่องก็ตื่นเต้นแล้ว และก็จัดทันที  อุ่นอ่านและนำมาฝึกใช้จริง  ผลที่ได้คือ ชีวิตน่ารักขึ้นเยอะเลยค่ะคุณขา


อุ่นตั้งใจอ่านและทำตามอย่างมีสติ เพราะเรื่องราวในหนังสือคือเรื่องจริง ที่การทำเรื่องเรียบง่าย คือ การเขียนข้อความขอบคุณได้นำพาวัยกลางคนผู้มีอาชีพทนายความ ที่มีอารมณ์โกรธเกรี้ยว อับจนหนทาง ชีวิตล้มเหลวทั้งการงานและครอบครัว ให้ก้าวออกจากภาวะสิ้นหวัง สู่ชีวิตที่มีความสุขที่ค่อยๆ เติมเต็มจากข้อความขอบคุณที่ผ่านไปทีละฉบับๆ 


เพราะอะไรรู้มั๊ย เพราะการขอบคุณหรือการเขียนข้อความขอบคุณอย่างมีสติ มันทำให้เราสนใจชีวิตคนอื่นมากกว่าหมกมุ่นหรือสนใจแต่เรื่องของตัวเอง จึงทำให้ค้นพบความรักมากมายจากผู้คนเดิมๆ ที่รายล้อมชีวิตอยู่แล้วตลอดมา และผู้คนใหม่ๆ ที่เรารู้จักเพิ่มขึ้นในทุกวัน

เอาล่ะมาเปลี่ยนวันที่ตกต่ำสุดขีด ไปสู่วันที่แสนวิเศษด้วยกับ กับ "365 ปาฏิหาริย์แห่งการขอบคุณ"
จอห์น คราลิค เขียน...ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ แปล ... รับรองจะอิ่มอุ่นอยู่ในหัวใจทุกคน

ถ้าอ่านแล้วแวะมาเล่ากัน หรือถ้ายังไม่อ่านก็แวะมาคุยนะ จะเล่าให้ฟัง
อุ่น  ปารมิตา  ชูเกียรติมั่น

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เดอะซีเคร็ต (The Secret)

เคยถามผู้ใหญ่ที่เคารพคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันท่านประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างสูง เกษียณตัวเองจากการทำงานตั้งแต่อายุยังไม่ทะลุเลข 5 ด้วยรายได้หลายล้านบ้านต่อเดือน ปัจจุบัน เดินทาง เรียนรู้ชีวิตเพิ่มเติม เข้าวัดวาได้ครั้งละนานๆ โดยไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกแล้ว ... ถามท่านว่า พลังดึงดูดที่หนังสือ เดอะซีเคร็ตบอกไว้ มันมีจริงหรือ ท่านตอบว่า ไม่รู้ !!! แต่ถ้าเชื่อแล้วใช้ ต่อให้ไม่เกิดผลอะไร มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้ามันมีจริง และรู้ด้วย แต่ไม่ได้ใช้ อันนี้เสียหายอย่างหนัก
ใช่สินะ แค่เชื่อ แล้วคิดตาม ทำตาม ไม่มีอะไรต้องเสียจริงๆ ไม่ต้องจ่ายอะไรสักกะบาท


จึงลงมืออ่านอย่างตั้งใจ พร้อมดูซีดีประกอบด้วย  ... บร๊ะ ! แม่เจ้า ! อุทานเสียงดังชัดเจนเช่นนี้ เพราะอ่านไปพลาง ทบทวนชีวิตที่ผ่านมาไปพลางๆ เรื่องราวหลายอย่างที่เกิดขึ้น หรือหลายสิ่งที่ชีวิตได้รับ มันได้จากการที่เราคิดถึงมัน และใช้ความลับ หรือพลังดึงดูดนี้  แต่เราไม่รู้ว่ามันมีกฎของแรงดึงดูแบบนี้นี้บนโลกใบนี้
แล้วก็คิดต่อว่า ตอนนี้เรารู้แล้ว แล้วถ้าตั้งใจฝึกฝนใช้มันอย่างมีสติในทุกขณะจิตล่ะ ...  แม่เจ้า ... เราต้องได้ทุกสิ่งที่เราเลือกสรรค์แน่ๆ ... จัดไป

เริ่มต้นเลย ... ขอดึงดูดความสุข ดึงดูดคนดี ดึงดูดผู้คนที่มีพลังชีวิต มาเพื่อช่วยเติมพลังชีวิตให้แก่กัน  อุ่นขอแบบนี้ทุกวัน  โป๊ะเช๊ะ !!! ทุกวันนี้ผ่านไปที่ไหน  ทั้งในโลกออฟไลน์ และโลกออนไลน์ มีแต่คนดี น้ำใจงาม หน้าตาสดชื่น ร่างกายแข็งแรงให้ทักทาย และรู้จัก ได้แบ่งปัน พลังชีวิตกันทุกวัน  ชีวิตนี้สุดแสนจะดี๊ดี  ของานดี โอกาสดี เราก็ได้ในสิ่งที่ร้องขอ  และอื่นๆ 


แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ขอแล้วจะได้นะ  หากแต่มันคือการขอ และลงมือทำ อย่าง มีสติกับเป้าหมายเพื่อไปให้ถึงตามที่ขอตลอดเวลา  ... ก็จะได้มัน  555x ชีวิตสนุกขึ้นทุกวันเมื่อใช้ กฎแห่งแรงดึงดูดคราวนี้ล่ะ จะขอทุกสิ่งที่แสนดีในโลกหล้านี้เลย (โปรดใช้วิจารณญาณนะจ๊ะ ... อุ่นขอย้ำว่า ขอแล้วลงมือทำด้วย ถ้าขออย่างเดียวแล้วนั่งรอ เกิดใหม่อีกกี่ทีก็ไม่ได้นะจ๊ะ)


เอาล่ะ ไม่ว่าเป้าหมายจะคืออะไร ความสุข สุขภาพ เงินทอง คนรัก หน้าที่การงาน ความลับอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้พวกเราได้อย่างที่ใจปรารถนา อยู่ในหนังสือเล่มนี้ เดอะซีเคร็ตโดย ผู้ล่วงรู้ความลับนี้ในวันที่ชีวิตล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า และชีวิตกลับมาสำเร็จอย่างพลิกโฉมไปจากท่าเดิมโดยสิ้นเชิง รอนดา เบิร์น


อย่า อย่าเพิ่งเชื่ออุ่น จนกว่าจะใช้หัวใจอ่าน และลงมือใช้กฎแห่งความลับนี้ด้วยตัวเอง
ขอให้สนุกกับความลับแห่งจักรวาล กฎแห่งแรงดึงดูด

อุ่นไอ  ไทยแลนด์

กฎแห่งความโชคดี

หนังสือเล่มนี้วางอยู่ที่บ้านนานมากแล้ว แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาอ่าน แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มีโอกาสได้ไปงานสัมมนาที่คุณบัณฑิต อึ้งรังษี เป็นวิทยากรร่วม  มันเป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่าคุณบัณฑิตรู้จักกฎแห่งความโชคดีตั้งแต่อายุประมาณ 18 ปี ตั้งแต่รู้ ก็ศึกษาเพิ่มเติมและใช้มาตลอด กฎนี้นำความสำเร็จอย่างงดงาม มีความสุข และร่ำรวยมาสู่ชีวิตของคุณบัณฑิตและทุกคนในครอบครัว

กลับมาจากงานสัมมนาวันนั้น ก็กลับมาหยิบหนังสือเล่มนี้ทันที และพออ่านคำนำผู้เขียน คุณบัณฑิตขึ้นต้นไว้ว่า ผมไม่เชื่อเรื่อง โชค”  ผมไม่เชื่อว่าวัตถุชิ้นใดหรือหมอดูคนไหนจะมีอำนาจเปลี่ยนแปลงโชคของเราได้ ไม่เคยเชื่อและจะไม่เชื่อ แต่ผมรู้อย่างไม่มีข้อสงสัยว่า ในที่สุดแล้ว มนุษย์ทุกคน สามารถเปลี่ยนแปลงโชคของตนเองได้


อุ่นซึ่งเป็น นักแสวงโชคดีและไม่เคยเชื่อเรื่องโชค ไม่เชื่อหมอดู ไม่เชื่อเรื่องดวง จึงไม่รีรอที่จะตั้งหน้าตั้งตาอ่าน เมื่ออ่านก็ค้นพบและเชื่อเลยว่ามนุษย์ทุกคนสามารถสร้าง โชคดีให้ตัวเองได้ โดยไม่ต้องรออำนาจดวงชะตา ฟ้าลิขิต ไม่ต้องคำนวณวันตกฟากใดๆ ให้เสียเวลา  โชคดีสร้างได้ด้วยตัวเองในทันทีด้วย กฎ 30 ข้อ ที่คุณบัณฑิต บอกพวกเราไว้ในหนังสือเล่มนี้ ที่ชื่อว่า กฎแห่งความโชคดี (The Luckiest Man in The World, Part 2) เป็นภาคต่อของ (The Luckiest Man in the World, Part 1) หรือ 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา


เอาว่าเพียงแค่อ่านสารบัญ ที่ระบุกฎทั้ง 30 ข้อ ไว้ ก็อยากอ่านเนื้อหาแล้ว และพอได้อ่านเนื้อหาก็ค้นพบว่า กฎเหล่านี้เป็นเรื่องสามัญที่เราทำได้ง่ายในชีวิตทุกนาที  เพียงแค่ต้องมีสติประคับประคองทำทุกวันอย่างสนุกสนาน  โชคดีก็เป็นของพวกเราทุกคน 
อย่า อย่าเพิ่งเชื่ออุ่น  แต่ให้เชื่อคุณบัณฑิต อึ้งรังษี คนไทยที่มีชื่อเสียงขจรไกลระดับโลก และระบุไว้ที่หน้าปกอย่างชัดเจนว่า โชคดีสร้างได้ พิสูจน์แล้วด้วยประสบการณ์


ทุกตัวอักษรที่ถ่ายทอดจากคนสำเร็จ มีคุณค่ายิ่งต่อชีวิตของเราทุกคน  ... หากอยากโชคดีขอให้สนุกไปกับ 30 กฎแห่งความโชคดีในหนังสือเล่มนี้ ได้แก่  คาดหมายให้สูงหน่อย    จงรู้อย่างชัดเจนว่าตนเองต้องการอะไร    ไม่ต้องพึ่งโชคก็ได้    ขอ แล้วจะได้    เชื่อ ก่อนที่จะเห็น    ฉวยโอกาส...อย่างรวดเร็ว   ฟังเสียงจากภายใน”    เพิ่มโอกาสโดยการ สร้างโอกาส”   วางแผนการเงิน    ผูกมิตร    เปลี่ยนที่ก็เปลี่ยนโชค    รักษาความสัมพันธ์ให้ สด อยู่เสมอ    เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง    อย่าเชื่อเรื่องเกี่ยวกับโชคที่ไม่จริงเหล่านี้    ห้ามแก้แค้น    ระวังตัว    กำจัดความเชื่องมงาย    ควบคุมปาก   ควบคุม ความรู้สึก”    สร้างคุณสมบัติที่ดี    คนโชคดีคือคน กล้า”    สนใจหลายสิ่ง    เป็นเลิศในสิ่งที่คุณทำ    ซื่อตรง   คนอดทนคือคนโชคดี    จงตระหนัก : โชคร้าย กลายเป็น ดีได้    จงเข้าใจ โชคร้ายนั้น ไม่เคยถาวร”    จงพูดเสมอ โชคดีโชคร้าย ใครจะรู้”    จงเตือนใจ : “ดีจัง สิ่งที่แย่กว่านี้ไม่เกิดขึ้น”    มองหาสิ่งที่ดีในทุกสถานการณ์


อุ่นเข้าใจว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ชอบ "กฎ" หรอกใช่มั๊ย เพราะกฎมักจะสื่อถึงความเข้มงวด เคร่งเครียด มีวินัย แต่หากพวกเราได้รู้จักกฎทั้ง 30 ข้อ นี้ และทำตามกฎที่แสนจะง่ายดายและสนุกสนานทั้ง 30 นี้ แล้วจะโชคดีในทุกเรื่องที่ต้องการ อุ่นฟันธงว่าสุดแสนจะคุ้ม ที่จะรู้จัก กฎแห่งความโชคดีนี้ไปด้วยกัน


อ่านแล้ว ทำแล้ว โชคดีแล้ว อย่าลืมแวะมาเล่าสู่กันฟังเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันนะ 
ขอบคุณกฎแห่งความโชคดีที่นำพาเรามาเจอกัน

อุ่นไอ  ไทยแลนด์

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รวยได้ไม่ต้องเอาถ่าน


มองผ่านมุมโชว์หนังสือหน้าร้านซีเอ็ด บุ๊ค ก็ต้องหยุดกึก เพราะสะดุดที่ใจตรงชื่อเรื่องอย่างแรง  ‘ไม่ต้องเอาถ่าน’ ในความหมายที่เราเข้าใจ คือ ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาเรื่อง ทำอะไรก็เปาะแปะ เฉอะแฉะ ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือได้  แล้วจะรวยได้อย่างไร นั่นสิ ... 

จึงพาร่างเข้าไปในร้าน แล้วหยิบขึ้นมาพินิจ  อุ๊ต๊ะ !!!  เนื้อในมีคำว่า “เถรตรงถังแตก” อูวแม่เจ้า ! เถรตรงถังแตกนี่อาจเป็นเรา
ไม่เอา ไม่เอา เราไม่อยากถังแตก เราอยากมีสภาวะเหมือนชื่อเรื่อง และเพราะโรเบิร์ต เชมิน (ผู้เขียน) บอกไว้ในคำนำว่า ‘การตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้ คือ หนึ่งในเรื่องฉลาดที่สุดที่จะทำได้ในชีวิต’ 555x อยากฉลาด จึงจัดมา



T.Harv Eker ให้เครดิตหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขยันขันแข็ง ทำทุกอย่างถูกต้องเที่ยงตรง แต่ยังไม่รวยสักที (ทั้งทางด้านเงินทองและจิตวิญญาณ) ขอแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้โดยด่วน 


สำหรับอุ่นค้นพบว่า ในหนังสือเล่มนี้ เชมินเขียนถึงคุณสมบิตที่เราทุกคนมีอยู่เพื่อเดินทางไปสู่ความร่ำรวย เพียงแต่ในระหว่างที่ชีวิตเจริญเติบโต เรารับข้อมูลของสังคม รับวิธีคิดที่สังคมส่วนใหญ่บอกว่าใช่  บอกว่าถูกต้อง โดยไม่รู้ตัวว่าข้อมูลส่วนใหญ่มันกลับตีกรอบ กำหนดเรา บอกเราว่าชีวิตมีข้อจำกัด เราไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่าที่เราเป็นอยู่ เกิดมาเป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น  ไม่เอาถ่านก็จะยากจน ไม่มีทางเป็นคนประสบความสำเร็จและร่ำรวยได้  แต่เชมิน  เป็นมนุษย์ไม่เอาถ่านตัวพ่อ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักธุรกิจระดับร้อยล้าน ขึ้นเวทีการเงินกับมหาเศรษฐีอย่าง โดนัล ทรัมป์ และ โรเบิร์ต คิโยซากิ มาแล้ว  มาบอกเราในหนังสือเล่มนี้ว่า ถ้าคุณเป็นคนไม่เอาถ่าน แต่อยากรวย คุณก็จะรวย เชมินจะพาคุณ “ล้าง” ความเชื่อทั้งหลายจากสังคมที่ตีกรอบจนคุณอยู่ในสภาวะถังแตกออก อุ่นขอเรียกว่า “ล้างสมอง” แล้วดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่แล้วออกมาใช้งาน เพื่อก้าวไปสู่ความร่ำรวย มั่งคั่ง และมีความสุข


ออ...! ความร่ำรวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้ายกตัวอย่างเป็นเงิน  บางคน มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท แล้วครอบคลุมค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะมีกินหรือไม่ ก็ถือว่าร่ำรวย บางคนต้อง 100,000 บาทต่อเดือน ถึงจะพอใช้จ่ายสำหรับทุกคนที่ต้องดูแล แล้วสบายใจไม่ต้องกังวล ก็ถือว่าร่ำรวย แต่บางคนต้องเป็นหลักหลายแสนหลายล้านต่อเดือน เพราะมีหลายชีวิตที่ต้องดูแล และหากเหลือพวกเขาก็สุขใจที่จะบริจาค นี่ก็คือร่ำรวยของแท้


ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องละอายถ้าต้องพูดถึงเงิน หรือความร่ำรวย เชมินบอกว่าถ้าคุณอาย หรือรังเกียจที่จะพูดถึงเงิน คุณก็จะถังแตกตลอดไป แต่ถ้าคุณรักเงิน เงินก็จะอยู่กับคุณ เฉกเช่นเดียวกับถ้าคุณรักน้องหมา น้องหมาก็จะอยู่กับคุณ แต่ถ้าคุณไม่รักเขา ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอยู่กับคุณ


เอาล่ะ เชมินบอกว่า ‘ถ้าคุณตั้งใจเรียน ทุ่มเททำงานหนัก ทำทุกสิ่งถูกต้อง อย่างที่ควรจะเป็น แต่ฐานะทางการเงินยังไปไม่ถึงไหน ปัญหาอาจอยู่ที่วิธีคิดทางการเงินของคุณ’ และหากคุณต้องการทางออก ... แนะนำอ่านหนังสือเล่มนี้โดยด่วน


สำหรับยุคนี้ ขอจงภูมิใจที่เกิดมาก ‘ไม่เอาถ่าน’  ( ^__^ )
อุ่นไอ  ไทยแลนด์

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

7 อุปนิสัยผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง (The 7 Habits of Highly Effective People)

“ 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง เป็นหนึ่งในวิชาเรียนของนักเรียนนักศึกษาประเทศเกาหลีใต้ ที่ส่งผลให้ประเทศเกาหลีใต้พัฒนาอย่างรวดเร็วจนกระทั่งขยับขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของทวีปเอเชีย


ช่วงอายุประมาณ 27-30 … 3 ปี อุ่นอ่านหนังสือไปประมาณ 300 เล่ม เพราะมันเป็นช่วงที่ชีวิตค้นหาอีกครั้ง (จริงๆ ก็หามาตลอดนะว่าจะรวยยังไงดี 555x)  ว่าจะไปทางไหนดี เกิดมาเพื่ออะไรกันแน่  อยากจะร่ำรวย หรืออยากสงบไปในเส้นทางของพระพุทธเจ้า ดังนั้นหนังสือที่เลือกอ่านส่วนใหญ่คือ หนังสือแนวพัฒนาตนเอง และหากเป็นนวนิยายก็อ่านแบบไซน์ไฟน์ ที่ประมาณว่าพระเอก นางเอกเป็นฮีโร่ของโลกใบนี้  อ่านไปอ่านมาในสามปีนั้น เราค้นพบว่าเราอยากรวย รวยก่อน แล้วจะทำอะไรก็ได้ทุกสิ่ง จะไปเข้าวัดเป็นปี จะไปนั่งสมาธิก็ไม่ต้องห่วงใคร เราจึงหาวิธีรวย ทำนู่น นี่ นั่น ลองผิดถูก แต่ก็ไม่รวยตามคาดหวังและลงมือทำ


จนเพื่อนที่เคารพรักคนหนึ่ง(คารพและรักจริงๆ นะ เราเคารพและรักในหัวใจความกล้าหาญ มั่นคง และเป็นคนดีของนาง อายุยังไม่ถึง 35 เลย แต่ปลดหนี้ให้แม่ได้ 30 ล้านบาท ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปี ..... ไม่รู้จะอุทานคำไหนเลยล่ะ  ไม่ได้มีความสวย ไม่ได้มีนมแบบ
อั้ม ไม่ได้สวยเซี๊ยะแบบชมพู่ แต่หัวใจนางๆ พูดได้คำเดียวว่า สุดๆ) นางบอกว่าถ้าอยากสำเร็จ ร่ำรวย พร้อมกับมีความสุข และเป็นคนดีของโลก ต้องเข้าใจตัวเองก่อน เข้าใจจากพื้นฐานของความเป็นมนุษย์เลย ... ย้ำนะ เข้าใจตัวเอง ไม่ใช่เข้าใจคนอื่น ไม่ใช่ไปหา
วิธีรวย ให้หาตัวเองให้เจอ แล้วทำตามหนังสือเล่มนี้บอก


โอ้ว !!! แม่เจ้า หนังสือหนาเกือบ 500 หน้า อิดออด อยู่หลายเดือน (ทั้งที่เป็นคออ่านนะ) ...เอาฟะ !!! อ่านก็อ่าน (อยากสำเร็จนิ อะไรที่จะทำให้สำเร็จ ร่ำรวย และมีความสุขได้ บอกมา พี่ทำ)

โอว !!! คุณขา แค่คำนำ ก็ทำให้ไม่อยากละหนังสือออกจากสายตาแล้วค่ะ อุ่นยกคำนำบางส่วนที่คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย บรรณาธิการหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ มาให้เลยนะ

ผมอยากเชิญชวนให้ท่านผู้อ่าน  เขียนบทชีวิตของตนเองใหม่ เปลี่ยนกรอบความคิดใหม่ ปลดตนเองจากสิ่งที่เคยเป็นมา ผ่านกระบวนการฝึกสมาธิ เพื่อที่เราจะได้พิจารณาหลักธรรมประจำตัว เป็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงจากภายในออกสู่ภายนอก เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ เห็นตนเอง โดยปราศจากการปรุงแต่งด้วยอารมณ์ใดๆ เป็นการให้เราได้ใช้ ปัญญาในการเข้าไปเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง


นี่คือ แก่นที่สำคัญของหนังสือเล่มนี้ เป็นการมองย้อนกลับเข้ามาพิจารณาตนเอง เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราคิดว่า ปัญหาอยู่ข้างนอกนั่น อยู่ที่สถานการณ์ อยู่ที่ใดก็ตามที่ไม่ใช่ตัวเรา ความคิดนั้น คือ ตัวปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด
และถ้อยประโยคนี้ก็โดนเข้าที่หัวใจอย่างแรง เราควรปรับเปลี่ยนท่าทีจากการเป็นผู้พิพากษา กลายเป็นประทีปส่องทาง จากผู้วิพากษ์วิจารณ์ เป็นต้นแบบที่ดี จากส่วนหนึ่งของปัญหา เป็นส่วนหนึ่งของทางออกที่ดี

และรู้สึกชีวิตยิ่งน่าดำรงอยู่มากๆ เมื่อเจอประโยคถ้อยนี้จากคุณดนัย ความสำเร็จที่แท้จริง จะเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นในใจตน มิใช่การไขว่คว้าหาสมบัติสิ่งของ การสะสมซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ  และสุข หากแต่เป็นการชนะใจตนเอง


7 อุปนิสัยผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง (The 7 Habits of Highly Effective People) …/ Stephen R. Covey…/
แปล...นพดล  เวชสวัสดิ์ ... ดนัย  จันทร์เจ้าฉาย...บรรณาธิการ
 

อุ่นไอ ไทยแลนด์
Take Care.